ผู้ให้บริการ Skrill และ NETELLER (Paysafe Group Limited) ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ดังนั้น ผู้ให้บริการจึงมีทีมงานที่คอยจับตาดูพฤติกรรมหรือกิจกรรมทางบัญชีอย่างใกล้ชิดของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่ขะสามารถแทรกแซงเมื่อพบเหตุผิดปกติได้ การปฏิบัติตามกฎของผู้ให้บริการ (T&Cs) จึงเป็นสิ่งที่ควรทำความเข้าใจก่อนการใช้บริการ
บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับสาเหตุที่เป็นไปได้ในการถูกปิดบัญชีหรือระงับบัญชี (แบน) ทั้งโดนแบนชั่วคราวและโดนแบนถาวร วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น และสิ่งที่ต้องทำหากบัญชี NETELLER หรือ Skrill ของคุณถูกแบน รวมถึงวิธีการถอนเงินกลับคืนให้เร็วที่สุดทำได้อย่างไร ต่อจากนี้ไปจะขอเรียก Paysafe แทนผู้ให้บริการ NETELLER และ Skill เพื่อความกระชับนะครับ
สารบัญบทความ
สาเหตุที่บัญชีถูกแบน หลัก ๆ จะมีดังต่อไปนี้
ทีมรักษาความปลอดภัยของ Paysafe ได้มีการสอดส่องบัญชีของลูกค้าทุกท่าน (Monitoring) เพื่อดูว่ามีกิจกรรมที่ผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่า และเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม ทางทีมงานจึงได้ทำการแบนบัญชีเหล่านี้ชั่วคราว (Temporarily Disable) เพื่อตรวจสอบก่อนว่ามีการละเมิดกฏด้านความปลอดภัยจริงหรือไม่ ซึ่งพฤติกรรมต่อไปนี้ เป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยที่สุดที่อาจทำให้บัญชีถูกแบนชั่วคราว
*** ตัวอย่างข้างต้นเป็นสาเหตุที่พบเจอได้บ่อย โปรดทราบว่า อาจจะมีอีกหลายสาเหตุนอกเหนือจากนี้ที่ทำให้เกิดการแบนบัญชีชั่วคราวได้เช่นเดียวกัน
เมื่อลงทะเบียนในครั้งแรก จะถือว่าได้ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขไปแล้ว ดังนั้นโปรดอ่านอย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจว่าการกระทำใดเป็นสิ่งต้องห้าม
Skrill T&Cs
https://www.skrill.com/en/footer/terms-conditions/skrillaccounttermsofuse
NETELELR T&Cs
https://www.neteller.com/en/policies/terms-of-use
การปฏิบัติตามกฏง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการถูกแบนบัญชีได้ ดังนี้
จะเห็นได้ว่าการคำนึงถึงความปลอดภัยของบัญชีเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก ซึ่งถ้าหากคุณต้องการให้บัญชีของคุณปลอดภัย คุณสามารถทำสิ่งนี้เพิ่มเติมได้
ในบางเวลาที่ไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ Paysafe ได้ จากเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ของคุณ ปัญหาเกิดจาก IP Address ซึ่งเป็นเพราะระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติ กำลังป้องกันรูปแบบการโจมตี DDOS ดังนั้นอาจจะต้องรอเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อปลดล็อกและใช้งานต่อไปได้ปกติ แต่ถ้าหากยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ให้ลองตรวจสอบดังต่อไปนี้เพิ่มเติม
หากทุกอย่างปกติ ให้รอภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งทางระบบอัตโนมัติ Paysafe จะเคลียร์ล็อกทุกอย่างให้ แต่ถ้าทำทุกอย่างแล้วยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้อีก ให้ติดต่อทีมเทคนิคเพื่อแก้ไขรายเคสต่อไป
หากลองเข้าสู่ระบบแล้วเห็นการแจ้งเตือนว่าบัญชีถูกจำกัดหรือถูกปิดชั่วคราว ให้ลองเข้าไปตรวจสอบในอีเมล์เป็นอันดับแรก โดยปกติแล้ว Paysafe จะส่งข้อมูลถึงปัญหาที่พบและแนะนำวิธีในการแก้ไข อาจจะเป็นการส่งเอกสารยืนยันเพื่อทำให้บัญชีกลับมาใช้ได้อีกครั้ง
ในกรณีที่ไม่ได้รับอีเมล์ใด ๆ ให้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Paysafe ซึ่งทีมงานจะตรวจสอบบัญชีให้เป็นรายเคส และแจ้งคุณถึงปัญหาและวิธีแก้ไข
หากบัญชีของคุณถูกปิดชั่วคราวก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ทันทีที่ชี้แจงหรือส่งหลักฐานไปบัญชีของคุณจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง รวมถึงเงินในบัญชีก็กลับมาใช้งานได้ปกติ
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บัญชีถูกปิดถาวร คุณต้องติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Paysafe จากนั้นพวกเขาจะบอกวิธีการถอนเงินออก หากบัญชีของคุณสามารถคืนเงินได้ โดยปกติการคืนเงินจะอนุญาติให้แค่บัญชีธนาคารที่เป็นชื่อเดียวกับชื่อเจ้าของบัญชี Paysafe เท่านั้น (ไม่อนุญาติบุคคลที่ 3) โปรดทราบว่าดุลพินิจทั้งหมดเป็นของทางทีมงาน Paysafe ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี Paysafe สามารถใช้สิทธิ์ให้การหักค่าธรรมเนียม 150 USD/EUR ของยอดเงินในบัญชี ในกรณีที่ผิดกฏหมายหรือฉ้อโกง
จากข้อมูลทั้งหมดข้างต้น เราทราบว่า Paysafe อนุญาติให้ 1 คนต่อ 1 บัญชี ดังนั้นหากคุณถูกปิดบัญชีเก่าลงไป จะไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างบัญชีใหม่ได้อีกต่อไป
Reference : https://www.ewallet-optimizer.com/